Diary of Mr.ZAM

November 20, 2008

Chapter 9 - The First Report in Seminar

หลังจากที่ อาจารย์ให้อ่านหนังสือ Modern Information Retrieval บทที่ 1, 2, 3 ... เพิ่งจะได้อ่านจริงๆ ก็วันอาทิตย์ที่ผ่านมานี่เอง (26/10/51)

บทที่อ่านผ่านไปนั้น ก็มีบทที่ 1, 2 ครับ ... หลังจากอ่านจบ ก็ต้องทำสรุปไว้เป็นดี แล้วก็จัดแจงส่ง e-mail ให้อาจารย์ในวันรุ่งขึ้นครับ เป็น summary chapter 1, 2 เพราะ chapter 3 ยังไม่ได้อ่าน ... แค่ chapter 2 อันเดียวก็มากกว่า chapter 1 + 3 แล้วครับ T_T ... มึนเด่ะ

วันนี้ทั้งวัน เลยขลุกอยู่แต่ในห้อง ... มีเดินเล่นบ้าง แต่อากาศมันก็เย็นน่ะนะ ... ไม่ไหวๆ สู้ห้องสุขาไม่ได้ จะมีคลายเครียดบ้างก็ไปซักผ้า ไม่ก็ไปกดน้ำที่ตู้กดน้ำเล่น (มันเป็นของเล่นไปแล้วอ่ะ ... ครั้งละ 100 yen ประมาณ 37 บาทไทยแระ)
ตกกลางคืนก็ยังคง (เล่น msn และ) อ่านหนังสือเหมือนเดิม ... และก็รอหนัง series ญี่ปุ่น แนวย้อนยุค คล้ายๆ "จังกึม" ของเกาหลี ... ดูครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (25/10/51) ช่วงเกือบๆ เที่ยงคืน ... คิดว่ามันเล่น ส - อา ... แต่คิดว่า ... มันคงเล่นเฉพาะวัน เสาร์ แล้วล่ะ T_T เพราะรอเมื่อคืนมันไม่มา ... ดันดูครั้งเดียวแล้วชอบแฮะ ... อารมณ์ประมาณว่าฟังไม่รู้เรื่องหรอก ... แต่ก็เดาๆ เอาจากการดูสีหน้าท่าทางนี่แหละนะ

ก็เป็นอันว่า ทำงานเสร็จประมาณตี 2 ครึ่ง ... กว่าจะได้นอนก็เกือบๆ ตี 3 และสะดุ้งตื่นเพราะอะไรจำไม่ได้ แต่ช่วงนี้บ่อย ... ฝนตก อากาศเย็นอีกด้วย

และที่ NUT เอง Internet Security สูงมาก ... ตี 1 ก็เล่น net ไม่ได้แล้ว ... และ port อื่นๆ ก็แทบไม่เปิดให้เลย เช่น ssh(22) เป็นต้น ... ทำงานบ่ได้เลย ... แถมตอนเช้ายังมีตัด internet ตอน 9 โมงด้วย ... แต่เริ่มเล่นได้ตั้งแต่กี่โมง อันนี้ไม่ทราบ ... ดัีงนั้น เช้านี้ผมก็เลยต้องส่ง email ตอน 8 โมงแทนครับ

เหมือนเดิม ... วันนี้ต้องไปเรียนภาษาญี่ปุ่นก่อน แล้วค่อยไปเรียน seminar ตอนบ่าย ... ครับ ... จะว่าไป ... ศัพท์บทที่ 7 ยังท่องไม่ได้เลย มี quiz ทุกวันด้วย เอาเถอะ ... ไปท่องในห้องก็ได้ ... แต่ก็ ok นะครับ ... เขียนได้อยู่ 8 คำ ... แสดงว่ายังท่องได้อยู่บ้าง

ถึงตอนบ่าย วิชา seminar แล้ว ... อาจารย์ก็มาตาม นศ. ใน lab ทุกคนให้เข้า ... พอเข้าไปนั่ง อาจารย์ก็เกริ่นก่อนว่า อาทิตย์หน้าวันจันทร์เป็นวันหยุด ดังนั้นเราจะเลื่อน seminar เป็นอังคารแทน เวลา ... (กี่โมง ผมได้ยินเป็น twenty p.m. ครับ) แต่วันนี้ คนน้อยหน่อย จากนั้นก็เริ่มรายงานทีละคนตามระเบียบครับ ไล่ไปทีละคน ... จนถึงผม อาจารย์ก็บอกว่า เห็น email คุณแล้ว แต่ก็อยากให้คุณรายงานให้คนอื่นฟังด้วย ... ได้ยินแล้ว โอ๊ะ ... ปกติ ไม่ค่อยได้ present เป็นอังกฤษเท่าไหร่ด้วย ... แต่ยังดีที่เมื่อคืนเขียนใส่สมุด note ไว้บ้างครับ ... ก็งมๆ ไปตามระเบียบสไตล์แซมๆ

ผมก็เล่าุถึง Chapter 1 เรื่อง Retrieval Process ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นประเด็นสำคัญของบทนี้ และ Chapter 2 เรื่องของ Modeling ของ Retrieval กับ Browsing ครับ ... ส่วนรายละเอียดลึกๆ ผมข้ามไป เพราะเนื้อหามันเยอะ อีกทั้งเวลาจะไม่พอ ก็เลยย่อๆ มันน่ะนะ

ก็ยังดี ... วันนี้ยังยิ้มได้ ... อาจารย์ท่านชมว่า "Very Good" ด้วยครับ แต่ไม่ทราบว่าฟังผมรู้เรื่องป่าว ... หรือให้กำลังใจเฉยๆ

สู้ต่อไป ... โคบาล ...

แนบท้ายอีกหน่อยว่า ... วันนี้ไอ้เพี่ือนที่ LAB ชวน @#$%^&*() อะไรไม่รู้ครับ ... ฟังไม่ค่อยออก แต่ก็บอกว่า "はい" ประมาณว่า "ตกลง" ครับ ... ซึ่งถ้าเค้าชวนไปขับรถตกเหวก็
คงได้ไปกับเค้าแหละ และก็นัดอีกตอนหกโมงเย็นครับ

ผมคิดว่าคงชวนไปเล่นกีฬา เลยกะว่าเด๋วจะกลับห้องซะหน่อยแล้วค่อยไปหาที่ยิม หรือไม่ก็ค่อยเข้ามาที่ lab ... แต่ก็เปลี่ยนใจ ... เพราะทำงานอยู่นานหน่อย T_T จนกระทั่งหกโมงเย็นครับ

เพื่อนที่ชวนชื่อ "Iwazaki" ก็มาบอกว่า "ikimasou" แปลว่าไปกันเถอะ .. วันนี้ไปกินกับเพื่อนอีกคนนึงครับ ทราบชื่อภายหลังว่า "Shimano" ครับ

สรุป ... เพื่อนๆ ชวนไป restaurant ชั้นบนของโรงอาหารครับ .. นึกว่าจะชวนไปเล่นกีฬาซะอีก T_T

แต่ความประทับใจของเพื่อนๆ ก็ต่อจากนี้แหละครับ ก็ตอนสนทนากันนี่แหละ ... ไอ้เรา ... อยากคุยญี่ปุ่นแต่ก็คุยไม่ได้ คุยไม่เป็น .. เพื่อนก็อยากคุยกับเรา ก็คุยอังกฤษ ... คุยไม่ค่อยได้ (เราก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องด้วยแหละ) ยิงกันไปยิงกันมา ... ภาษาใบ้นี่แหละง่ายสุด

สั่งอาหาร .. ผมก็ไม่ทราบว่า แต่ละตัวมันอ่านว่ายังไง เล่นเขียนคันจินี่ดิ ... คาตากานะ, ฮิรากานะ น่ะพอได้ ... คันจิเนี่ยดิ ... ตัวเดียวอ่านได้หลายแบบ แล้วแต่ไปผสมกับคันจิตัวอื่นด้วย ... ก็เลยสั่งง่ายๆ ครับ ... แนะนำผมหน่อยดิ

สรุป ... ก็สั่งเป็นเมนูเดียวกับ ชิมาโนะ ครับ ... อร่อยดี ... ระหว่างที่รออาหารนั้น ... ก็คุยๆ กัน จนผมจับได้ว่า ... เวลาเค้าถามผม ... what กับ where มันอันเดียวกัน เล่นถามคำถามเดียวกัน แต่ต้องการคำตอบไม่เหมือนกัน เช่น

'What's sport do you play?' คำถามแรก ที่ต้องการคำตอบว่า ... แบด, ปิงปอง, ฟุตบอล, ...

'What's sport do you play?' คำถามที่สอง ที่ต้องการคำตอบว่า ... เล่นอยู่ไหน ... อันนี้ผมก็ไม่รู้หรอกนะ ... ได้แต่ว่า อาศัย Answer example แล้วก็ตอบเอาครับ แล้วผมก็ถามเอาศัพท์ภาษาญี่ปุ่นไว้ด้วยน่ะนะ

ทานเสร็จก็คุยกันนิดหน่อย ... เค้าบอกว่า ถ้าจะทานข้าวก็ชวนพวกเค้ามาทานด้วยก็ได้ เข้าแก๊บดิครับ ... ยิ่งอยากได้เพื่อนญี่ปุ่นคุยอยู่น่ะนะ ... จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับครับ


จบวันที่ 27/10/51

ปล. เลื่อน seminar เป็นวันอังคารก็ดีเหมือนกันครับ ... พอดี 1, 2, 3 จะไปชมดอกไม้แดงกัน ... มีทริปจัดไป แล้วเด๋วจะเอารูปให้ชมนะครับ


Chapter 8 - The First Time to Make the Mildly Seasoned Soup

ผ่านมาหลายวัน ไม่ได้ update diary ซักที ... รวบยอดเรื่องราวไว้ซักหน่อยล่ะกัน ว่าด้วยเรื่องการทำอาหารประเภทแกงครั้งแรก

ที่ผ่านๆ มาหลายๆ วันในช่วงนี้ ฝนตก, ฟ้าอึมครึม, บรรยากาศชวนเหงา ... อืม ... เย็น ... ช่วงนี้ต้องใส่เสื้ออุ่นๆ และก็ไม่ค่อยทำให้อยากออกไปไหนไกลๆ อยู่ห้องท่าจะดีกว่า

อากาศเย็น ทำให้ผมทราบว่า คำว่า "สุขา" ที่คนไทยเรียกนั้น ... มัน "สุข" จริงๆ เมื่อมาอยู่ที่นี่ ... เพราะอะไรหรือครับ ... ก็เพราะว่า ถึงแม้จะอยู่ห้องก็จริง อากาศอุ่นกว่าข้างนอกก็จริง ... แต่มันก็ยังเย็นนัก เมื่อเทียบกับว่า อาบน้ำอุ่นในห้อง "สุขาาาาาาาาาา" ... โดยปกติ ที่ไทยนั้น ผมไม่อาบน้ำนานหรอกครับ ... เสียเวลา แต่อยู่นี่ อยากใช้ความสุขนานๆ เท่านั้นเอง

มาเริ่มกันที่ โปรแกรมประหยัดเงิน และวิธีการประทังชีวิตด้วยการทำอาหารที่นี่ล่ะกันครับ

... ไอ้เรานั้น ปกติก็ไม่เคยทำอาหารเองหรอก อย่างมาก ผัดผักใส่น้ำมันหอย, กับอาหารประเภทไข่ ผมก็อยู่ได้แล้ว ... แต่ ... การอยู่ที่นี่ บางครั้งมันก็ต้องทำให้ได้เกือบทุกอย่าง จริงมั๊ยครับ?

เริ่มเลย ... อาหารประเภทแกง ... เป็นอาหารที่สมองผม จินตนาการได้น้อยที่สุึด ... แต่ผมก็จะลองทำดู (24/10/51) ว่าแล้วก็คิดเลย ... "แกงจืด" ... น่าจะง่ายที่สุด ... แต่หารู้ไม่ว่า ในตู้เย็นเรา เครื่องไม่ครบ T_T

ผมลืมสำรวจว่า ... เครื่องปรุง รวมถึง เครื่องกิน มีอะไรบ้าง ... นึกได้ก็หยิบมารวมๆ กันครับ
- กะหล่ำ หัวเบ่อเร่อ 1 อัน (หั่นแบ่ง 4 ส่วน ...)
- เนื้อไก่ 3 ชิ้นใหญ่ๆ (หั่นมันหลา่ยๆ ชิ้นอีก)
- เห็ดเข็มทอง 1 ห่อ
- ไข่
- เกี๊ยว ... สำหรับทอด

เครื่องปรุงก็ - คนอร์ผงผัดรสหมู
- น้ำจิ้มไก่ (เกี่ยวไรด้วย)
- น้ำตาล (มรดก)
- ซอสต่างๆ (มรดก)

อืม ... เห็นดังนี้ ... กำลังว่าจะเปลี่ยนเมนู แต่ก็เอ๊ะ ... เราตัดสินใจแล้ว จะเป็นอะไรก็เป็นไป ... "แกงจืด"

และแล้ว ... ก็เริ่มจากการต้มซุปก่อนครับ ... อืม ... ทำไงดีล่ะ
1. ต้มน้ำครับต้มน้ำ ... แน่ๆ เลย ... ซุปก็ต้องน้ำ ทำแกงก็ต้องมีน้ำ
2. น้ำเดือดก็ปรุงน้ำซะหน่อย ... ใส่เลย "คนอร์ ผงผัดรสหมู" จากนั้นก็ชิมจนน่าจะเข้าที ... แต่ ... มันปะแล่มยังไงไม่รู้ ... ก็ช่างมันเถอะ
3. ใส่ไก่ ต้มพอสุก ... เคี่ยวนิดๆ พอให้รสไก่ออกหน่อยๆ
4. ได้ที่ก็ใส่ที่เหลือ ... ผักกับเห็ดเข็มทอง และเกี๊ยว แล้วก็ต้มสักพักพอให้กลิ่นผักกลิ่นไก่คละเคล้ากันไป แล้วก็ชิม ... ปรุงรสอีก

อ๊ะ ... ถึงขั้นตอนที่ 4. ผมคิดแระ ... ง่ายจังแฮะ ... แต่ ... ชิมยังไง ก็ไม่ใช่แกงจืดแน่ๆ .. รสคนอร์ปะแล่มๆ ... ก็เลยว่า ... อืม ... ปรุงรสตามใจล่ะกัน

5. ปรุงรสเพิ่มเติมด้วย "น้ำจิ้มไก่" ... เอ๊ะ ... ยังไง

ก็กลายเป็นว่า ... จากที่ตั้งเป้าไว้ว่าเป็น "แกงจืด" กับกลายมาเป็น "สุกี้" ไปซะนี่ T_T คนละทวีปเลยครับ ... แต่ ... ก็บรรลุวัตถุประสงค์เดียวกัน คือ การทำแกง ... แต่ ... ไม่ค่อยเป็นไปตามเป้าหมายแค่นั้นเอง T_T

ถึงตอนนี้ อร่อย หรือไม่อร่อย มันก็ต้องกินแหละครับ ... แต่ว่าก็ว่า ... ไม่ได้ชมตัวเองนะครับ ... ร้อนๆ เนี่ย ... อร่อยสุดๆ

กินอยู่อย่างประหยัด 3 วัน ส, อา, จ

Chapter 7 - The ART Lab

ครบ 1 สัปดาห์ของการอยู่ที่ NUT แระ ... มาวันแรกก็ 15 ต.ค. 51 วันนี้บวก 7 เข้าไปก็ 22 ต.ค. 51 ครับ

ทีแรกกะว่าวันนี้จะไม่ update diary หรอก ... แต่มีเรื่องตื่นเต้นให้ต้องได้
มานั่งเขียนนี่ดิ :)

จากเมื่อวานที่เข้าไปเรียนภาษาญี่ปุ่น แล้วตอนบ่ายไม่ค่อยสนุก ... วันนี้เลยกะว่า จะไม่เข้าตอนบ่ายแล้วจะเข้าไปที่แล็ปเลยว่างั้น ... ตอนเช้าก็เรียนปกติ แต่อาจารย์คนนี้ก็เป็นคนละคนกับเมื่อวานครับ ซึ่งการสอนของแกคือทบทวนเมื่อวาน และค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป บรรยากาศไม่ตึงเครียด และไม่ตื่นเต้นจนเกินไป ทำให้เข้าใจได้ง่ายดีครับ

และช่วงบ่าย ทีแรกก็บอกพี่เดียร์ไปว่าจะไม่เข้า ... แต่พี่เค้าก็บอกว่า บ่ายนี้สนุกกว่าเมื่อวานแน่นอน เพราะเรียนใช้พู่กันเขียนตัวคันจิครับ ... โอว ... พูดมาแค่นี้ เรายิ่งชอบอยู่แล้ว มีรึจะปฏิเสฐ ... ก็เลยต้องเข้าไปตามระเบียบครับ :D
พอเข้าช่วงบ่ายก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ครับ ... อาจารย์เอาพู่กันมาให้หัดใช้ กับน้ำเปล่า ??? ทีแรกให้เขียนบนโต๊ะ ... สักพัก อาจารย์ เอากระดาษที่เวลาโดนน้ำแล้วจะมีสีปรากฎขึ้นมาให้ลองเล่นครับ ... ยังกะเขียนแล้วลบได้ ประมาณว่า เมื่อเอาน้ำไปวาดตัวหนังสือบนกระดาษแล้ว ทิ้งไว้สักพักน้ำเริ่มแห้งมันก็จะกลับมาเป็นกระดาษสีเหมือนเดิม ... เจ๋งมากครับ :D ... ชอบๆ อยากหามาเล่นมั่งจัง

พอ ได้พู่กันมา ก็ลองจับดูครับ แล้วก็ลองตวัดๆ เล่น ... อาจารย์ก็ถามว่า เคยใช้มาก่อนป่าว? ก็ตอบไปว่าไม่ครับ ... เอิ๊กๆ แล้วหลังจากให้ซ้อมลงบนกระดาษดังกล่าวแล้ว ใครพร้อมก็ไปเขียนหมึกจริงบนกระดาษจริงครับ

ทีแรกตั้งใจจะเขียนคำว่า 金 [きん, kin] แปลว่าทอง ... แต่ อืม ... ไม่เอาดีกว่า ก็เลยเขียนตัว 山 [やま, yama] ที่แปลว่าภูเขา ไป ... เพราะคิดถึงน้องสาว แหะๆ ... และอีกตัวเขียนไม่ทันกระดาษใหญ่ ... ซ้อมนานเกินไป ผมเขียนคำว่า 海 [うみ, umi] ที่แปลว่าทะเล ... เพราะกะจะเอาทะเลยัดใส่ในกระดาษซะหน่อย ... แหะๆ ... แต่ก็ให้ภูเขาอยู่เหนือทะเลน่ะนะ ... ถ้าจำได้ว่า 花 [はな, hana] ที่แปลว่า ดอกไม้ เขียนยังไง ก็คงเอาไปเขียนเหมือนกัน ... อารมณ์คิดถึงผู้สาว ซะงั้น ... แต่ ... จะคิดออกก็ต่อเมื่อมันอยู่หน้าคอม นี่แหละ T_T ... ปกติเรียนบ่ายโมง จะเลิกบ่ายสอง ... วันนี้ปาไปเกือบบ่ายสาม เพราะแต่ละคนก็สนุกซะงั้น อิอิ ... ผมจึงเรียกช่วงนี้ว่า "วิชาศิลปะ" ซะงั้น :D

มีเรื่องตื่นเต้นเพิ่มอีกหน่อย ... ก็คือ จากตอนแรกที่ผมเข้ามาที่ NUT ก็ต้องมีการลงทะเบียนเรียนวิชาที่มีหน่วยกิตด้วย (หากว่าอาจารย์ที่ปรึกษาให้ลง) ทีนี้ ผมเข้าใจมาตลอดว่า ผมยังไม่มีวิชาที่ต้องลงนับหน่วยกิต เพราะตอนที่ mail ไปขออาจารย์ที่ปรึกษาเรียนภาษาญี่ปุ่น อาจารย์ก็ไม่ได้ว่าอะไร ... เราก็นึกว่าจะต้องส่งวิชาภาษาญี่ปุ่น ว่าลงทะเบียนให้ทาง จนท. ซะงั้น ... แต่ไม่ใช่ ... เพราะ Intensive Japanese Class เป็นวิชาที่ไม่นับหน่วยกิต และส่งใบสมัครให้กับอาจารย์ผู้สอนได้เลย ... ดังนั้น ... (ตามความเข้าใจ) ผมจึงไม่ต้องยื่นใบ Application form ที่ลงวิชาเรียนแต่อย่างไร

มัน ไม่ใช่อย่างนั้นสิครับ ... ผมนั่งๆ ทำงานที่แล็ปอยู่ ... ประมาณบ่ายสามโมง กำลังลง Windows Pro ที่อาจารย์เอามาให้ใหม่ ... aca license ก็มีโทรศัพท์ลึกลับ (เบอร์ที่นี่แหละ แต่ผมไม่ทราบ) โทรเข้ามา ... แล้วพูดภาษาปะกิต T_T ... บอกว่าเราต้องส่ง Class(es) Application Form ให้เค้าวันนี้ตามที่ตกลงกัน ... ครับ ... แต่ ... ตามที่เข้าใจ ผมไม่มีไงครับ ... คุยกันไปคุยกันมา ผมเลยว่า งั้นเด๋วผมลงไปที่ office ไปดูว่าผมต้องลงอะไรบ้าง

ปรากฎว่า ... ก่อนหน้าที่ผมเข้ามาเรียน อาจารย์ที่ปรึกษาได้วางแผนการเรียนให้ผมก่อนหน้านี้แล้ว ครับ T_T ... อาจารย์น่ารักมาก ... แต่ท่านก็คงงงกับเจ้า กระดาษใบสมัคร Class(es) Application Form กระมัง ก็เลยไม่ได้ว่าอะไร ... ซึ่งผมไปดูที่ office ของ international student แล้วก็พบว่า ต้องลงเรียนจริงๆ 3 ตัว 6 หน่วยกิต .. ซึ่งผมอ่านไม่รู้เรื่อง แต่ จนท. ก็บอกว่า "ลงไม่ลงยังไงก็ให้ clear กับ advisor นะ ... ถ้าไม่ลงก็บอกเหตุผลด้วยว่า เพราะ..." ดังนั้น ผมจึงวิ่งขึ้นไปที่ห้อง advisor เพื่อจัดการเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จ พอ advisor เห็นเท่านั้นแหละครับ ... อ๋อ เลย ... ประมาณว่า ท่านก็ plan ให้นั่นแหละ ... แต่ไม่รู้ว่าจะให้ทำอย่างงี้ด้วยซะงั้น ท่านก็เลยโทรไปคุยกับ จนท. ครับ ... ก็ ok คุยกันรู้เรื่อง อ. ก็เล่าให้ฟังว่ามันคือวิชาอะไรบ้าง ... ก็เล่นเป็นคันจิกับภาษาญี่ปุ่นหมด นี่นา T_T อ่านไม่รู้เรื่อง แต่สรุปก็คือ เรียน seminar 1 - 2 [1 - 1 นก.] และ research lab [4 นก.] ครับ .. ผมก็ ok เพราะ advisor เป็นคนสอนเอง จากนั้นก็ไปยื่นส่งใบสมัครเรียน ... เป็นอันว่าเสร็จสิ้นกระบวนการครับ :)

วันนี้ลง Windows ใหม่ ... ยังไม่ทันได้อ่านหนังสือต่อจากเมื่อวานเลย ... แต่กะว่าจะเอามาอ่านต่อที่ห้องนี่แหละครับ

จากเมื่อวานเช่นกัน ที่ไปซื้อ sushi (ปลาดิบ) มาเตรียมกิน ... แต่มันมีกลิ่นแล้วอ่ะ ก็เลยเอาไปจัดการทอดใส่น้ำมันหอย ซะ ... เป็นเมนูใหม่ไปเลย ทานกับข้าว, วาซาบิ ... นั่งกินคนเดียว รู้งี้ให้แฟนมาทำให้กินดีกว่า (อารมณ์เหงาน่ะนะ) แต่อย่างน้อยก็กินได้จนหมดนะคร้าบ ... ขอบอก (ทำเองนี่หว่า)

ครบ 1 อาทิตย์ที่ NUT ก็ได้ทำอาหารกินเองแล้วครับ ... ต่อไปคงได้ประหยัดมากๆ แล้วล่ะ ... จนกว่าจะได้ ATM มาซะงั้น T_T ... ประมาณว่า มีเงินเป็นแสน แต่ทำไรไม่ได้ T_T

Chapter 6 - Buying the Food

วันนี้ 21 ต.ค. 51 ... ในที่สุด ผมก็ได้เข้าเรียนภาษาญี่ปุ่นซักที ... แต่ ... หนังสือรู้สึกว่าจะยังไม่ ok เท่าไหร่ รอว่าตอนเที่ยง จันทร์ จะเอาหนังสือ "มินนะ โนะ นิฮงโกะ" มาให้ครับ :D ... ก็ประหยัดดี :P

Class นี้เป็นครั้งแรกของผมก็ว่าได้ ... เริ่มต้นก็ quiz vocab บทที่ 4 อย่างที่ให้เตรียมตัวมาบ้างก่อนนิดนึง ... เล่นเอาตื่นเต้นมาก เหอๆ ... อาจารย์เค้าพูดอังกฤษเก่งมากครับ ... เล่นเอาว่า เข้า class นี้ได้ 2 ภาษา ... คือ ญี่ปุ่น กับ อังกฤษ ... สนุกไปอีกแบบ ... อ้อ ... ลืมบอกไปว่า คลาสนี้คนไทยเรียนอยู่ 5 คนครับ มี พี่เดียร์ (แม่บ้าน), พี่เปิ้ล (ป.เอก D1), น้องต๊อก (ปทุมวัน), น้องปลา (มธ.) และผม (มข.) ... แบบว่ายึดห้องเลยว่างั้น ก็สนุกดีครับ แบบว่าเรียนแต่ละวัน อาจารย์แต่ละคนไม่เหมือนกัน อย่างวันนี้เล่นเอาตื่นเต้นมาก ไล่ถามทุกคนในห้องเลย ... ก็มันส์ดี เล่นเอาคีงร้อนไปหมดเลยว่างั้น สมองต้องประมวลผลตลอดเวลา ... มึนไปเลย

มีพักเที่ยงกับเรียนต่อตอนบ่าย ... ซึ่งอาจารย์ก็คนละคนอีกแระ ... คนนี้เข้ามาก็ญี่ปุ่นทั้งคาบเลยครับ เล่นเอามึนไปตามระเบียบ ก็ทำหน้าเอ๋อๆ ไปน่ะนะ ... และก็เลิกเรียนตอนบ่าย 2 ครับ ... จากนั้นก็ไปที่แล็ปต่อ

ที่ แล็ปก็ไม่มีอะไร ... มาถึงก็มานั่งทำงาน แบบว่าเอา slide เรื่อง Modern Information Retrieval มาเขียนลงในเอกสารอีกรอบ หางานทำ และก็ลงข้อมูลลงใน thaisnp [biotec] ต่อ ... เอาจนมันเสร็จไปข้างนึงแหละครับ ... ก็เลิกมาตอนสี่โมงเย็น ... ซึ่งก็เหมือนจะค่ำแล้วด้วย และอีกอย่าง ช่วงนี้มืดเร็วมาก ห้าโมงเย็นก็ไม่เห็นหัวพระอาทิตย์แระ T_T

วันนี้มีออกกำลังกายด้วยครับ ... ไม่รู้สิ มาอยู่นี่ยังไม่ถึงเดือนดี ผมมีความรู้สึกว่าอ้วนขึ้นเยอะเลย กินก็เยอะ เนื้อออกหน้าแล้วด้วย ... โอว ... ม่าย ... ก๊อด ... เพราะฉะนั้นก็ต้องไปออกกำลังกายสิครับ และที่นี่ เล่นตั้งนานกว่าจะได้เหงื่อ ... เฮ้อ ... แต่ก็ไปหาพี่ๆ เค้านั่นแหละครับ :)

วันนี้อีก .. พี่ๆ ชวนไปปาร์ตี้ที่บ้านครับ ... แต่ผมขอตัว เพราะมีการบ้านภาษาญี่ปุ่น และก็ต้องเตรียมท่องศัพท์สอบบทที่ 5 อีก ... เยอะมาก ... เตรียมอ่านหนังสือของ อ. อีกครับ ... หลายอย่าง .. ก็เลยขอตัวออกมา

แต่ ... อ.บี ก็ว่าจะไปซื้อของที่ JUSCO ... โอว ... เราก็อยากหาซื้อของมาไว้ที่ตู้เย็น มั่ง ก็เลยขอติดรถไปด้วยครับ ... นั่นแหละ ทำให้ว่าต้องไปปาร์ตี้ T_T ... แต่ก็ดีครับ ได้รู้จัก อ.ฉัตร เพิ่มอีกคน เหอๆ ... ที่ผมซื้อก็ ... ไม่รู้สิ เยอะอยู่เหมือนกัน หมดไปประมาณ 1600 เยนได้ มีปลาดิบมากินเล่นด้วย แต่ก็อย่างว่าแหละ ปาร์ตี้ทำเอากินปลาดิบไม่ได้นี่ดิ ... แถมมันหมดอายุวันที่ 22 นี้ด้วยนะ ... หมดปุ๊ป ... จับมันทอดเลยดีก่า ... ฮ่าๆๆ



ครับ .. ปาร์ตี้วันนี้ อ.บี ทำ "กิมจิ นาเบะ" ให้ทาน (เป็น ราเมง น้ำกิมจิ ครับ) พูดได้ว่า อร่อยมากกกกกก ... คือ ก่อนกินก็ยังอิ่มๆ อยู่เลย ... แต่พอทานแล้วก็หยุดไม่ได้ ... เล่นเอาหมดถ้วยเลยครับ ... อิ่มมั่กๆ ... ช่วงนี้ก็ไม่รู้เป็นไรเหมือนกัน มีความรู้สึกอิ่มนะ แต่ท้องร้อง ... ประจำเลย ... สงสัยอืดดดดดดด พุงป่องแน่ๆ ...

ขากลับจากบ้าน อ.บี ก็ปาไป 5 ทุ่มแล้วครับ ... วันนี้ก็เลยเดินกลับกันจากบ้าน อ.บี ไปยังหอ ... ผู้ร่วมทางก็มี อ.ฉัตร, พี่มู และก็ผมครับ ... เย็นมั่กๆ ... เล่นเอาถึงห้องแล้วน้ำมูกไหลฟิดๆ เลยครับ T_T ... ถ้าเจอหิมะเข้าจะเป็นไงเนี่ย?

ถึงห้องก็ขอเก็บของเข้าตู้ก่อน จากนั้นก็อาบน้ำ และก็นั่งทำการบ้าน, ท่องศัพท์ต่อเลย ... เล่นเอานอนตี 2 เหมือนเดิมอีกแระ T_T

Chapter 5 - Find the Japanese Class Room

วันที่ 19/10/51 วันนี้ฟ้าใสมาก ก็เลยกะว่าจะเตรียมพร้อมหาห้
องเรียนไว้ก่อน พรุ่งนี้จะได้เข้าเรียนเลย แต่ก็ถือกล้องติดตัวไปด้วย เผื่อว่าได้ถ่ายรูป ... :D

ตาม email ที่อาจารย์ให้มา บอกว่าอยู่ตึก 13 - Japanese Lecture Room อืม ... แล้วมันห้องเบอร์ไหนกันเนี่ย แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปเดินดูห้อง เพราะเห็นบางคนนั่งเรียนอยู่ข้างใน ได้แต่เกรงใจดูอยู่ห่างๆ ... สุดท้ายเลยได้เดินไปถ่ายรูปจนถึงหน้ามอครับ แล้วก็เดินกลับมาที่ห้องเพื่อเตรียมตัวเรียนวันรุ่งขึ้น เพราะอาจารย์กำชับว่าต้องได้ hiragana และ katakana เพราะฉะนั้น คืนนี้ต้องลุยกันหน่อย

กลับมาที่ห้องผมก็มาเตรียมเลยครับ ... หัดเขียน, ท่องบ้าง, แต่เน้นที่เขียนก่อน ประมาณว่าจำวรรคของแต่ละพยางค์ไว้ ตอนนี้เวลาเห็นตัวหนังสือจะใช้เวลา query นานซะหน่อย กว่าจะนึกออกว่าอยู่วรรคไหน ชื่ออะไร เล่นเอานอนตอนตี 3 ครึ่งกว่าจะพอจำได้

เช้า 20/10/51 ผมตื่นเช้าหน่อย เพราะ Class เริ่ม 8:50 ... ขอบอกว่า อากาศตอนเช้าเนี่ย ... เย็นมาก น่าจะ 14 องศาได้ ... ตื่นขึ้นแล้วอาบน้ำแต่งตัว ซ้อมเขียน hiragana และ katakana ต่อ ... เอาให้คล่อง จนมีความรู้สึกว่า เมื่อคืนนี้สู้เมื่อเช้าไม่ได้ สมอง query เร็วกว่า ... อิอิ

พอใกล้เวลาเรียน ... (ตื่นเต้นๆ) ... ก็ไปที่ตึก 13 อันนี้ดูลาดเลาไว้แล้ว ... แต่ห้องไหนล่ะ????? ... เอิ๊ก ... จะได้เวลาเรียนแล้วด้วย ... ??? ... ทำไงดี ... โทรหาพี่ๆ ดิครับ ... ก็นึกได้ ... พี่จั๊บเลย ... ตู๊ด ... พี่แกก็รับ แล้วก็แนะนำมาครับ แต่ด้วยความโง่ของผมเอง (หลังจากเจอห้องแล้วนะ) ผมจึงหาไม่เจอ

สรุป ว่าเช้าวันนี้ไม่ได้เข้า class เลย :( ก็เลยขึ้นไปอ่านหนังสือต่อที่ lab แล้วก็ทำงานต่ออีกนิดนึง ... แล้วก็เที่ยง ก็เลยว่าคงเจอเพื่อนๆ ที่ไปเรียนแหละ ก็เลยจะลงไปทานข้าว

โอ ว ... ก่อนหน้านี้ tutor เข้ามาก็ไม่ได้พูดอะไรกับเรา ... พอเราจะไป ก็เลยมาบอกว่าให้เข้า seminar บ่ายโมงที่ห้องข้างๆ ครับ ... ก็อืม ... ทีแรกว่าจะไปเรียนคันจิต่อตอนบ่ายซะหน่อย ... แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก ให้ อ.ที่ปรึกษา ก่อนล่ะกัน

เที่ยง นี้ไม่ได้ทานข้าวครับ แต่ก็ไปที่โรงอาหารหาเพื่อนๆ พี่ๆ คนไทย ... ก็เจอครับคนที่เรียน intensive ด้วยกัน เค้าก็ทักว่า ... "ไม่เห็นไปเรียนเลย" เป่ว ... หารู้มั๊ยว่าเราหาห้องไม่เจอ ... แตกซะงั้น บ่ายนี้น้องก็เลยชวนไปเรียนคันจิ ... แต่เราดิไปไม่ได้ครับ บอกว่ามี seminar ก็เลยขอว่า ไปดูห้องหน่อยล่ะกัน :'(

และในที่สุด ... ผมก็เจอแล้ว ... (Yeahhhh !!!) และเป็นโซนที่ไม่ได้มาเดินด้วย ... เป่ว ...

เอา เป็นว่าได้เห็นห้องแล้ว ก็เลยขอกลับไป seminar ล่ะกัน ... วันนี้อาจารย์ให้แนะนำตัวครับ ก็โซโลลิตเติ้ลเจแปนซะ ... ได้แค่นั้นแหละ จากนั้นเค้าก็คุยกันเป็นญี่ปุ่นหมดเลย ... แต่ผมว่า อาจารย์ผมน่ารักดีครับ :)

หลัง seminar เสร็จ ผมก็นั่งที่ lab อ่านหนังสือ ทำงานต่อ ... สักพัก อาจารย์ เดินมาหา บอกว่า อ. Matsuda (สอนญี่ปุ่น) เรียกพบ จะคุยเรื่องเรียนด้วย ... โอว ... บอกแล้วว่า อ. ที่ปรึกษาผมน่ารักทุกคน :D แถม อ. กลัวผมไม่ทราบห้องอีก ก็เลยเขียนแผนที่ให้ด้วย แหะๆ ... ก็จริงแหละ ขนาดเขียนแผนที่ให้ยังเกือบเดินหลงเลย ... เอิ๊กๆ ... แล้วก็ไปคุยกับ อ. ซึ่ง อ. ก็ให้ใบสมัครเรียนแล้วก็ให้ไปซื้อหนังสือ ... 2000 yen ซึ่งก็เรียบร้อยแล้ว ... และพรุ่งนี้มี vocab quiz ... จะต้องอ่านหลังจากเขียน mail นี้เสร็จแหละ

สู้ต่อไป ... จีบัน ... พอแระ ... วันนี้ไว้แค่นี้ แล้วเด๋วค่อยเขียนใหม่ครับ ... ฝันดีครับทุกคน

ปล. ผมเขียนส่ง mail ไปให้พ่อแม่อ่านก่อน ... ค่อยได้ up ทีหลังครับ ... ขออภัยในความล่าช้า

Chapter 4- NUTThai Meeting for new student

ตารางเวลาของวันนี้มีงานเลี้ยงสังสรรค์ต้อนรับน้องใหม่ และเลี้ยงส่งน้องเก่าที่จะกลับไทย เวลา 18:00 น.

เมื่อ วาน ก็ไปเล่นกีฬากับอาจารย์บี และพี่จั๊บกันต่อ ทำให้ได้รู้จักกับพี่ๆ คนไทยเพิ่มเติมอีก ... และวันนี้เค้าก็มีนัดตีแบดกันบ่าย 4 โมง ... ซึ่งผมก็ว่าจะลองไปดู ... อยากออกกำลังกายเหมือนกัน เพราะมาอยู่ที่นี่เพียงไม่กี่วัน เหมือนแขนจะโตขึ้นยังไงไม่รู้ ... พุงก็เริ่มออกแล้ว ... อาจจะทานข้าวเยอะในแต่ละมื้อก็ได้ ... หุหุ

วันนี้ ตื่นสายหน่อย ... แต่อากาศก็เริ่มอุ่นขึ้นทุกทีทุกที แต่ก็ประมาณ 14 - 15 องศา ... คือไม่ต้องใส่เสื้อกันหนาวหนักๆ โตๆ ก็ได้ครับ ... แต่ถ้าอยู่เฉยๆ อาจจะหนาว ... ซะงั้น ... ตื่นมาก็อัพรูป เขียน blog นิดหน่อย และก็อ่านหนังสือที่อาจารย์ให้มา

พอพูดถึงหนังสือที่ อาจารย์ให้มา ก็เลยนึกถึง email ที่ อ. YUKAWA (อ.ที่ปรึกษาที่นี่) ส่งมาให้เรื่อง Japanese Language Class เพราะขอ อ. เรียน ... ซึ่ง อ. บอกว่า This Weekend นี้ คุณต้องอ่านเขียน Hiragana และ Katakana ให้ได้นะ ... คร้าบ ... แต่ยังไม่ได้อ่านเขียนเลย ... ไปอ่านหนังสืออาจารย์อยู่

ถ่ายรูปหมู่เตรียมอำลา นร. แลกเปลี่ยนที่จะกลับไทย

ได้ เวลาตีแบด ... ผมก็ไปตอน 4 โมง ... ที่นี่ ถ้าเป็น เสาร์ - อาทิตย์ โรงยิมจะปิด ต้องใช้การ์ด นศ. เข้าไป ซึ่งผมก็ยังไม่ได้บัตร นศ. เลย ก็เลยเดินอ้อม อ้อม อ้อมไปหาประตูที่มันเปิดอยู่ แล้วก็เข้าำไปด้านใน .. ทีแรกคนก็เล่นกันน้อย ... แต่หลังๆ ... โอว ... เยอะนะ ... 2 คอร์ด และมีตัวแถมมา 1 คนครับ ... ก็เล่นๆ เอาฮา ... แต่ ... เล่นยังไงเหงื่อก็ไม่ออก ได้แต่ซึมๆ กลายเป็นตีแบดลีลาใหม่ ... ประมาณว่า Acting เพื่อให้ได้เหงื่อ ... แต่ก็ยังไม่มีเหงื่อ ซะงั้น T_T ก็อากาศมันเย็นนี่นา

ใกล้ถึงเวลา party กลุ่มที่ตีแบดทั้งหมดก็กลับมายังหอ Inter (International House) ที่ผมพักอยู่นั่นแหละ เพื่อเตรียมเข้างานเลี้ยงสังสรรค์ ของชุมนุมคนไทยในนากาโอกะ หรือเรียกว่า NUTThai ครับ ... งานนี้ก็มีการแนะนำพี่ๆ เพื่อนๆ ให้รู้จักกัน และก็แนะนำพูดคุยทั่วๆ ไป ประชุมเป็นทางการ

ส่งขึ้นรถ

มี วาระในการประชุมเรื่องนึง เป็นเรื่องการทำเว็บ ... ซึ่งงานนี้ผมก็อาสาเข้าไปช่วยดูให้ด้วยครับ ... คงไม่น่าจะใช้เวลานาน เพราะก็ทำๆ บ้างอยู่แล้ว ... แบ่งๆ งานกันทำล่ะกัน :)

เรื่องที่ผม หวั่นๆ นิดๆ ก็เรื่องการเรียนภาษาญี่ปุ่นนี่แหละ ครับ ... เพราะเห็นหลายคนบอกว่า Class ที่ผมจะได้ลงเป็น Intensive ... ซึ่งเข้มข้น ... มีเรียนคันจ่งคันจิด้วย ... โอว ... และมี quiz ทุกวัน ถามแบบเข้มข้นจริงๆ T_T ไรเนี่ย ????? ที่สำคัญเค้าไปกัน 3 บทแล้ว เพราะเริ่มไปตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วครับ ... ที่เค้าเริ่มไปก็เป็นบทที่เป็นคำ ถามจากอาจารย์นั่นแหละครับ, นับเลข, ทักทาย, เขียนตัวหนังสือ ... นั่นก็คือ ผมจะต้องเขียนมันให้ได้ .. ว่ากันว่า ผมใช้เส้น อ. เข้าเรียน T_T เพราะมีน้องที่เค้ามาก่อนผมอยากเรียนมาก ... แต่ก็ไม่ได้เรียนเพราะมันเต็ม ซะงั้น :( ... น่าสงสารน้องเค้า ก็เลยว่า ... mail ไปหาอาจารย์เล้ย :D

กินต่อ ... อิอิ

อีก ประการคือ คอร์สนี้ เค้าให้การบ้านตลอด เรียนตั้งแต่ 8:50 - 12:00, คันจิ 13:00 - 14:00 ... ก็เลยว่า ... คงอาจจะไม่ได้อัพเดทบล็อกอีกนานกระมัง หรือเวลาที่ให้กับเรื่องพวกนี้คงให้น้อยลง จนกว่าการเรียนที่เข้มข้นจะหมดไป :) จริงมั๊ย?

Party มาถึงจุดอิ่มตัว ที่ต้องเลิกรา ... (แต่ก็มีบางส่วนยังไม่เลิกรา) พี่ๆ (โดยส่วนใหญ่ผู้ชาย) ก็จะเริ่มตั้งวงแบบมีหลักการและเหตุผล (ยังไง) เค้าก็เริ่มออกเงินกันแระ ... (ก่อนหน้านี้ผมหนีมาคุยโทรศัพท์กับ แฟนน่ะนะ) เบียร์ครับเบียร์ ... หลายป๋องเลย T_T แต่ ... ใช่ว่าจะยกกันง่ายๆ ... เราก็มาเล่น "เกมส์นับเลข" กัน ... ใครนับผิด "อึกนึง" อืม ... มีเหตุผล ไอ้ทีแรกเราก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกนะ ... เพราะคอแห้ง ... เลยจิบเยอะ ฮ่าๆๆ

กติกามีอยู่ว่า ... กำหนดเลขที่จะหารลงตัวก่อน อย่างเช่นเลข 7 ... คนเริ่มก็จะบอกว่า ซ้าย หรือ ขวา (คนในวงต้อง Alert ทุกคน ... ไม่งั้นดื่ม) แล้วก็นับ 1, 2, 3, ... ไปทางนั้นเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงเลขที่ลงท้ายด้วยเลข 7 หรือ หาร 7 ลงตัว ให้บอกว่า "อึ๊บ" แล้วก็วนกลับ ... ฮ่าๆๆ ... มันส์ พะยะค่ะ

เกมส์ นี้ ... ทำให้ผมรู้ว่า ... การดื่มเบียร์จากกระป๋อง เมาไม่เร็วเท่าดื่มเบียร์จากแก้วกระดาษ T_T เพราะดื่มไปเกือบกระป๋องยังไม่เมาเลย แต่พอเปลี่ยนเป็นแก้วจะต้องรักโถส้วมยังไงไม่รู้ T_T ดีนะที่ฝึกมาบ้าง ... ไม่งั้นหนักกว่านี้

งานนี้กว่าจะเลิกก็ปาไปตี 4 ครับ ... ผมหนีมาเลย ... ไม่ไหวๆ ...

ปล. ตื่นมามึนหัว ... แฮ๊งค์แน่ๆ ... อย่างงี้ต้องถอน ... เด๋วไปทานข้าวแระ ... เจอกันครับ

TSAJ Community - Nagaoka